วิเคราะห์ก่อนเกมนัดนี้ที่เราจะมาวิเคราะห์กันนั่นคืออังกฤษ กับโครเอเชีย เปิดประเดิมมารอบแรกฟุตบอลยูโรในการวิเคราะห์ของเรานะครับเราเลือกคู่ อังกฤษกับโครเอเชีย เพราะมีอะไรหลายๆอย่างครับที่น่าสนใจ ไม่ว่าการที่ทั้งสองทีมนี้เจอกันนับตั้งแต่ปี 2007 นะครับ พวกเขาเคยเจอกันทั้งหมด 6 ครั้งนะครับ แล้วเป็นทีมชาติอังกฤษ ที่สามารถชนะทีมชาติโครเอเชียได้ถึง 3 ครั้ง เสมอกัน 1 ครั้ง ส่วนโครเอเชีย ชนะ 2 ครั้ง เป็นอะไรที่แบบสูสีเหลือเกิน เมื่อพวกเขาเจอกัน เป็นเกมที่ต้องบอกเลยว่าน่าติดตามจริงๆนะครับ มันเหมือนนัดล้างตาในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่ทางด้านทีมชาติอังกฤษไปแพ้ให้กับโครเอเชียในรอบ 4 ทีมสุดท้ายนั่นเอง และครั้งนี้ฟุตบอลยูโร พวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกัน ผมเชื่อว่าน่าจะมันส์แน่นอน อย่างที่เราบอกไปข้างต้นนะครับ พวกเขาเคยเจอกันตั้งแต่ปี 2007 และก็คือ 6 นัด หลังสุดนะครับเป็นอังกฤษที่ชนะ 3 เสมอ 1 และโครเอเชียชนะ 2 ครั้ง แต่นัดล่าสุดที่พบกันนะครับในด้านยูฟ่าเนชั่นส์ลีก แต่ถ้านับรายการยูโรที่พวกเขาเคยเจอกันต้องย้อนกลับไปปี 2007 เป็นโครเอเชียชนะทีมชาติอังกฤษได้ 3 ครั้ง คนแต่ตอนนี้กาลเวลาก็ผ่านมา ทั้งโครเอเชียเอง หรือทางด้านทีมชาติอังกฤษเอง ระดับนักเตะมันห่างชั้นกันซะเหลือเกิน แต่ก็ไม่ได้หนีกันมากนัก ต้องบอกนี้ก่อนนะครับ เรามาดูความพร้อมของทีมชาติอังกฤษกันดีกว่าและแม็คไกวน์ นะครับไม่น่าจะทันเป็นตัวจริงในเกมที่เจอกับโครเอเชีย แม้ว่าเขาจะกลับมาซ้อมวันศุกร์ ก็คงรู้ดีว่าอดอุ่นเครื่องของอังกฤษนะครับ ว่ามันไม่ทันแน่นอน สำหรับในการยืนตำแหน่ง แกเร็จ เซาเกจโดยเขาจะไม่เปลี่ยนไปเล่นหลัง 3 ในวันอาทิตย์ที่เจอโครเอเชียแบบกะทันหันอย่างแน่นอนแต่มีหลายๆสื่อก็มองว่าอาจ
จะใช้หลัง 3 ก็ได้โดยใช้ลุคชอว์ เป็นเซ็นเตอร์แบ็ค xmax และเล่นคู่กับ มิ้งค์ หรือเป็นไว้แล้วจับคู่กับจอห์นสโตน 3 คนในระบบเซ็นเตอร์ 3 น่าจะเป็นลุคชอร์และจอห์น สโตน แต่เราเองก็คาดการณ์ ไม่ได้เหมือนกันครับ แต่ที่รู้รู้แฮรี่แม็คไกวร์น่าจะฟิตไม่ทันเจอกับโครเอเชีย แน่นอน อีกหนึ่งประเด็นของการสังเกตนะครับ คือปัญหาในการเลือกใช้ผู้เล่นนั้นเอง เพราะว่ามีไม่น้อยนะครับ สำหรับนักเตะแมนเชสเตอร์ซิตี้ กับเชลซี ที่พึ่งเข้าแคมป์ทีมชาติและก็ไม่ได้วอมอัพกับทีม 2 เกมแล้วครับ อย่างที่รู้ดีเนื่องจากเกมแชมเปียนส์ลีก จบมาไม่นานทำให้การมองภาพหรือทำให้การซ้อมหรือทำการลงทีมอุ่นเครื่องนักเตะเหล่านั้นแทบจะไม่ได้เป็นกำลังหลักสำคัญเลยแต่ยังไงก็ตามนั้นก็จะมีผู้เล่นบางส่วนที่อาจจะได้ลงสู่สนามในเกมที่เกี่ยวกับโครเอเชียในตำแหน่งปีกซ้ายนะครับใครที่เป็น FC แจ็ค กรีลิช กัปตันทีมคนเก่งของ ‘สิงห์ผงาด’ แอสตัน วิลลา ก็พอมีโอกาสที่จะได้เห็นการผลิตสกอร์ ในนัดเปิดสนาม เขาได้ลงทำการแข่งขันกระชับมิตร
ทีมชาติอังกฤษ และเขาเองก็ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุด ในช่วงเวลานั้นและตำแหน่งนั้นจะมีคู่แข่งสำคัญอย่าง มาคัส แรทฟอร์ด จะเชื่อได้เลยว่า เลือกนักเตะคนสำคัญของ Aston Villa จะได้ลงสู่สนามในนามทีมชาติ และเป็นตัวจริงกับเกมที่พวกเขาเจอกับโครเอเชียอย่างแน่นอนก็ได้นะครับ กลับมาจากอาการบาดเจ็บ และลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในนัดที่เจอกับโรมาเนีย 1 ประตูต่อ 0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเขาได้เล่นทั้งหมด 45 นาที หลังและนี่เป็นระยะเวลาเกือบ 4 เดือนที่เขาได้ลงเล่นแต่เขาจะดีพอหรือเปล่า ในการสตาร์ทเป็นตัวจริงกับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งไม่ควรลงเล่นในฟอร์มแบบนี้แต่เขาก็ลงเล่นให้กาเร็จ เซาเกจเป็นประจำและคงไม่แปลกใจเลยครับที่จะเห็นเขาสตาร์ทในวันอาทิตย์นี้พร้อมกับคงจะประทับใจและคงจะชอบสไตล์การเล่นของ แจ็ค กรีลิช เขาคือลูกรักหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกันนะครับ ต้องติดตามกันวันอาทิตย์นะเหมือนมีแววเราจะได้เห็นเอามาดูระบบการเล่นของทีมชาติอังกฤษกันดีกว่าครับ ทีมชาติอังกฤษจะมาในระบบ 4 2 3 1 ครับ ผู้รักษาประตูเป็นจอร์แดน พิคฟอร์ด เซ็นเตอร์แบ็ค 2 คน เป็นมิงค์ ยืนคู่กับจอห์น สโตน แฮรี่ เคนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
เรามาดูความพร้อมของโครเอเชียดีกว่าครับ ผลงานในเกมอุ่นเครื่องของโครเอเชีย 2 นัดหลังเป็นผลงานที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมเหมือนกันฟังดูเหมือนย้อนแย้งได้ครับในผลงาน 90 นาที แต่ละเกมของโครเอเชียถือว่าเล่นดี แต่สุดท้ายก็จบสกอร์ไม่ได้ ทำให้เกมแรกที่พวกเขากระชับมิตรกับอาร์เมเนีย 1 ประตูต่อ 1 เท่านั้นเอง ที่พวกเขาทำได้และเกมถัดมาที่พวกเขาเจอกับเบลเยี่ยม เยี่ยมเลยแต่ยังไงก็ตามนะครับ ขุมกำลังของโครเอเชียเข้าใกล้ฟอร์มการเล่นที่ดีแล้ว น่าจะทันกับเกมที่เจอกับทีมชาติอังกฤษมีเพียง 3 ตำแหน่งเท่านั้นนะครับที่จะปรากฏตัวแล้วเป็นตัวจริงตลอดที่จะเจอกับทีมชาติอังกฤษ นะครับสำหรับตำแหน่งกองกลางที่คาดว่าจะได้เป็นตัวจริง ตลอดกาล ก้อคือ ลูก้า โมดริด ที่ทำผลงานได้เป็นอย่างดี ทั้งทีมชาติ และสโมสรเหมือนกันเราจะได้เห็นผู้เล่นเหล่านี้ที่เราเกิดมาเมื่อสักครู่นี้นะครับสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมที่พวกเขาเจอกับโครเอเชียอย่างแน่นอนและเรามาดู LINE ของทางด้านโครเอเชียกันเลยประตูเป็น โดมินิค ลิวาโควิช นี่คือการทำซ้ำของสองชาติรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2018 ที่โครเอเชียทำการดับฝันทีมชาติอังกฤษด้วยการชนะด้วยสกอร์ 2 1 ในช่วงเวลาพิเศษและพวกเขาเผชิญหน้ากัน 2 ครั้ง นับตั้งแต่นั้นมา และโดนทีมชาติอังกฤษชนะไป 1 ครั้ง แล้วก็จบกันด้วยการเสมอ 1 ครั้ง เป็นเกมที่สำคัญมากๆถ้าอยากจะเขียนประวัติศาสตร์การคว้าแชมป์ยูโร 2020 ทีมชาติอังกฤษเองนะครับชนะ 2 เกมกระชับมิตรในการเจอกับออสเตรียและโรมาเนียการได้รับชัยชนะทั้ง 2 ครั้ง มันไม่น่าประทับใจกับฟอร์มการเล่นของทีมชาติอังกฤษเลยโดยขณะที่โครเอเชียได้ ครับก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีแต่เพียงแค่ไม่เป็นสกอร์แล้วก็ไม่เป็นชัยชนะในการที่พวกเขาเสมอกับอาร์เมเนียและเคยแพ้ให้กับเบลเยี่ยม อังกฤษ มีความกดดันอย่างมากในการเริ่มต้นนี้ได้ดี แต่พวกเขาก็น่าจะเป็นเกมที่ยากมาก สำหรับกลุ่มนี้พวกเขาเจอกับโคเอเชีย และไม่น่าแปลกใจเลยถ้าหากพวกเขาไม่ชนะ ถ้ามองจากตำแหน่งอื่น โครเอเชียอาจจะเป็นรอง แต่กองกลางของโครเอเชียที่อยู่ในระดับโลกกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมดริช เพราะโครเอเชียเองจะมีแผนย้ำแค้นทีมชาติอังกฤษอย่างแน่นอน คาดการณ์ไว้ว่าคู่ นี้จะจบลงด้วยการเสมอ 1 ประตูต่อ 1 แบ่งแต้มกันไปในกรุ๊ป D