เปิดหัว วิเคราะห์ อิตาลี กับตุรกี ใครดีกว่ากัน

บอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2020 ที่จะเริ่มต้นขึ้น ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายนนี้

โดยคู่เปิดสนามเป็นการพบกันของ ทีมชาติตุรกีพบกับทีมชาติอิตาลี ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิคในกรุงโรมประเทศอิตาลี

แข่งขันกันในคืน วันที่ 12 มิถุนายนนี้ เวลา 2:00 น ตามเวลาในประเทศไทย และผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ตุรกีชนะ 3 เสมอ 2 ส่วนอิตาลี ชนะรวดทั้ง 5 นัด

ผลงานรอบคัดเลือกที่ผ่านมา ตุรกีผ่านเข้ารอบสุดท้ายด้วยการคว้าอันดับ 2 ของกลุ่มที่มี 23 คะแนนจากการชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 นัด ส่วนอิตาลีเป็นแชมป์ของกลุ่ม J ด้วยการชนะรวดทั้งหมด 10 นัด

ความพร้อมของเกมนี้ ตุรกีชุดนี้นำทัพมาโดย ชากลาร์ โซยุนชู กองหลังดาวรุ่งทีมชาติตุรกี กองหลังจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ฮาคานคัลฮาโนกลู ห้องเครื่องจาก เอซี มิลานและบูรัค ยิลมาซ ดาวยิงกัปตันทีมที่ค้าแข้งกับริวในลีกฝรั่งเศส

อิตาลี มาพร้อมหน้ากันในชุดนี้ไม่ว่าจะเป็น จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เลโอนาร์โด้โ บนุชชี่ จอร์จินโญ่ markovic ลอเรนโซ่ อินซิเญ่เอ้ และกัปตันทีมอย่าง จอร์จินโญ่ แข้งจากทีมแชมป์ยุโรป เชลซี เป็นแกนหลัก

สำหรับเกมนี้ หากดูจากชื่อชั้นทีมและนักเตะ อิตาลีอาจจะดูดีกว่าตุรกีพอสมควร เพราะว่าฟอร์มช่วงหลังถือว่าแข็งแกร่งไม่แพ้ใครมา 6 นัดติดต่อกัน จนอิตาลีที่ฟอร์มถือว่ายอดเยี่ยม ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ และยังรักษาครีนชีสมาถึง 7 นัดติดต่อกัน

ตุรกี ชุดนี้มีจุดเด่นคือทีมเวิร์คที่ช่วยกันเล่นได้ดี ทั้งรับ และรุก ในช่วงเดือนมีนาค มที่ผ่านมา ยังสามารถชนะฮอลแลนด์มาได้ถึง 4 ประตูต่อ2 จึงทำให้ตุรกี กลายเป็นทีมที่จะประมาทไม่ได้ และยังถูกยกให้เป็นมามืดลุ้นคว้าแชมป์ในยุโรป อีกด้วย

อิตาลี ชุดนี้ ที่รอบคัดเลือกเป็นรองเบลเยี่ยม  จุดอ่อนของอิตาลีชุดนี้อาจเป็นแนวรับที่ผู้เล่นอย่าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ (ยูเวนตุส)  จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (ยูเวนตุส) มีอายุมากพอสมควร แล้วซึ่งหากผ่านไปรอบลึกอาจมีปัญหาเรื่องความฟิตก็เป็นได้หลังลงสนามมาทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาก่อนมาลุยต่อยุโรปในทันที แต่ว่าความเก๋าไม่เป็นสองรองใคร

 อย่างไรก็ตามนั้น อิตาลี งานคงจะหนักเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อชิง 3 คะแนนแรกของศึกยูโรหนนี้มาครอง และยังเป็นการลงเล่นในประเทศตัวเอง จึงมีความพร้อมและถือความได้เปรียบพอสมควร

รวมถึงฟอร์มที่ไม่เสียประตูมาหลายนัด และยังยิงเฉลี่ยได้มากกว่า 2 ประตูในแต่ละเกม จึงมองว่าน่าจะเป็นอิตาลีที่น่าจะชนะตุรกีไปได้อย่างน้อย 2 ประตูต่อ 0 และคว้าา 3 แต้มได้สำเร็จ

วันที่ 11 มิถุนายนนี้นะครับ ก็คือการแข่งขันวันแรกของฟุตบอลยูโร 2020 หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนะครับหลังจากที่เลื่อนการแข่งขันมาเป็นเวลา 1 ปีเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของ covid 19 ครับ

วันนี้ก่อนที่เสียงนกหวีดแรกจะเริ่มต้นขึ้นนะครับ สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ครับฟุตบอลยูโรหรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนะครับ ก็คือการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปยุโรปนั่นเองครับ

ซึ่งจัดขึ้นโดยยูฟ่าหรือสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปการคัดเลือกรายการนี้นะครับ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1960 ซึ่งจากเดิมที่จะจัดการแข่งขันในปี 2020

เนี่ยก็คือจะเป็นการครบรอบ 60 ปี ของการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งนำมาถึงวิธีการจัดการแข่งขันที่พิเศษกว่าครั้งก่อนครับบอลยูโร 2020 นี้ ใช้รูปแบบการแข่งขันทั้งหมด 24 ทีม ในกลุ่มนะครับ กลุ่ม J ประกอบไปด้วย อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี

การแข่งขันครั้งนี้นะครับ มีรูปแบบพิเศษที่แตกต่างไปจากเดิมนะครับ ก็คือปกติการแข่งขันยูโร เป็นเจ้าภาพเดียวหรือเต็มที่ก็คือการจับมือเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างสองเมืองครับ

แต่ครั้งนี้นะครับก็คือจะเป็นการแข่งขัน 11 เมืองในเขตประเทศเกือบทุกภูมิภาคของยุโรป ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครับ

การจัดการแข่งขันรูปแบบนี้ จะทำให้มีทีมชาติได้ลงสนามต่อหน้าแฟนบอลของประเทศตัวเอง เป็นแบบสนามในรอบแบ่งกลุ่มครับ

ปีนี้มีสีสันที่หลายคนเฝ้าติดตามคอยก็คือเรื่องของลูกฟุตบอลนะครับ ลูกฟุตบอลในครั้งนี้ยูโรใช้ลูก euphoria ของ adidas ขึ้นได้ชื่อมาจาก Unity ที่เป็นความเป็นหนึ่งเดียวมาร่วมกับยูโฟเรียที่แปลว่า ความสนุกสนานครับ

มาถึงทีมเต็งแชมป์ในปีนี้นะครับ ทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุดนะครับ ก็คือทีมชาติฝรั่งเศสแชมป์โลกปี 2018 ที่เรียกว่า ครบทุกองค์ประกอบในการที่จะเป็นแชมป์ในปีนี้ครับ

ส่วนอันดับรองลงมาก็คือเบลเยียม ที่ประกอบไปด้วยนักเตะที่เรียกได้ว่าเป็นโกลเด้น Generation ของเขาเลยครับ รองลงมาก็คือ เยอรมันแชมป์โลกปี 2014 และโปรตุเกสแชมป์ยูโรเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมาครับ

สุดท้ายนี้นะครับก็คือสิ่งที่แฟนฟุตบอลรอคอยชมฟุตบอรายการนี้ ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 อย่างเป็นทางการ มาถ่ายทอดสดให้กับแฟนบอลกีฬาในประเทศไทยครับ แต่ก็ต้องบอกว่า มีรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องว่ามีผู้ที่กำลังติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์นะครับ เริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์นี้ แฟนกีฬาชาวไทยจะได้รับชมการแข่งขันฟุตบอลยูโรกันอย่างแน่นอนครับ